พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ควบคุมโควิ-19 มีอะไรบ้างที่ประชาชนต้องรู้
-
ขอความร่วมมืออย่าเดินทางกลับภูมิลำเนา
ทางด้านรัฐบาลขอร้องให้ประชาชนควรงดการเดินทางกลับภูมิลำเนา เพราะจะพบกับมาตรการคัดกรอง ซึ่งจะมีด่านตรวจที่สำคัญตามที่ได้ประกาศไปก่อนหน้านี้ นอกจากนี้อาจจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะเป็นตัวเร่งการระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 เป็นวงกว้างได้
-
ขอความร่วมมือให้ประชาชนกักตัวอยู่ที่บ้าน เป็นหลัก
โดยทางด้านรัฐบาลขอความร่วมมือให้ประชาชนกักตัวอยู่ในบ้านถ้าไม่มีเหตุจำเป็นจริงๆไม่ควรออกมาจากบ้าน นอกจากนี้ทางรัฐบาลได้จัดสถานที่กักตัวเพิ่มเติมให้แก่ประชาชนอาทิเช่น โรงพยาบาลสนาม พื้นที่กักตัวขนาดใหญ่ที่จะคนได้ 100-1,000 คน และจัดหาเวชภัณฑ์ให้เพียงพอ ด้วยการจัดซื้อเพิ่มเติมในเวลานี้
-
ขอความร่วมมือให้ประชาชนใช้สื่ออย่างระมัดระวัง
โดยทางด้านรัฐบาลขอความร่วมมือให้ประชาชนใช้สื่ออย่างระมัดระวัง อย่าแชร์ข้อมูลที่ผิดๆหรือยังไม่ได้รับการยื่นยันจากทางฝั่งรัฐบาล
โดยฝั่งรัฐบาลได้มีมาตรการรับมือสำหรับพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ควบคุมโควิ-19 ดังนี้
-
มีการจัดตั้งด่านตรวจ สกัดตามสถานที่ต่างๆ พื้นที่กักตัวและพร้อมปรับมาตรการให้เข้มงวดขึ้นหากเหตุการณ์ระบาดถึงขั้นเลวร้าย โดยเจ้าหน้าที่มีอำนาจในการตรวจสอบอย่างเข้มงวด
-
มีการจัดทำแผนการแพร่ระบาดในพื้นที่ต่างๆ
-
มีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการฉุกเฉิน โควิด-19 (ศอฉ) พร้อมทั้งประเมิณสถานการณ์เป็นรายวัน
-
นอกจากนี้ข้อกำหนดใหม่ๆจะเพิ่มเติม สามารถประกาศใช้ได้ตลอดเวลา
ส่วนอำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่สามารถบังคับใช้ได้ในอนาคตหากเกิดสถานการณ์ระบาดรุนแรงประกอบด้วย
กรณีสถานการณ์ระดับที่ 1 สถานการณ์ฉุกเฉินทั่วไป
-
ห้ามมิให้บุคคลใดออกนอกเคหสถานภาย :
โดยมีในระยะเวลาที่กำหนด เวลา 19.00-07.00 น. เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
-
ห้ามมิให้มีการชุมนุมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใด ๆ
ไม่อนุญาติให้ประชาชนร่วมตัวรวมตัวมั่วสุมหรือมีการชุมนุม ตามที่สาธารณะ
-
ห้ามการใช้เส้นทางคมนาคม :
โดยจะห้ามประชาชนใช้ยานพาหนะ หรือกำหนดเงื่อนไขการใช้เส้นทางคมนาคมตั้งแต่ปิดเส้นทางหรือห้ามการใช้ยานพาหนะ
-
ห้ามประชาชนเข้าไปในพื้นที่ที่กำหนด
โดยอนุญาตให้อพยพประชาชนออกจากพื้นที่ที่กำหนดเพื่อความปลอดภัยของประชาชนดังกล่าว หรือห้ามผู้ใดเข้าไปในพื้นที่ที่กำหนด
-
ห้ามการใช้อาคารที่รัฐบาลกำหนด
ไม่อนุญาตให้ประชาชนใช้อาคารที่รัฐบาลกำหนดหรือไม่อนุญาตให้เข้าไปอยู่ในสถานที่ ที่รัฐบาลแจ้งเพราะสถานที่นั้นๆอาจมีการติดเชื้อได้
กรณีสถานการณ์ระดับที่ 2 สถานการณ์ฉุกเฉินมีความร้ายแรง…!!
-
อนุญาตให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจจับกุมและควบคุมตัว
ในกรณีที่ผู้ใดซึ่งต้องสงสัยว่าจะเป็นผู้ร่วมกระทำการให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน เท่าที่มีเหตุจำเป็นเพื่อระงับความรุนแรงโดยไม่ชักช้า
-
อนุญาตให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจออกคำสั่งเรียกให้บุคคลใดมารายงานได้
โดยประชาชนที่ต้องสงสัยจะต้องมารายงานตัวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเรียกมาให้ถ้อยคำหากมีคำสั่งเรียกตัว
-
อนุญาตให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจออกคำสั่งยึดหรืออายัดได้
โดยเจ้าหน้าที่มีอำนาจโดยเด็ดขาดสำหรับยึดหรืออายัดได้ไม่ว่าจะเป็น อาวุธ สินค้า เครื่องอุปโภคบริโภค เคมีภัณฑ์ หรือวัตถุอื่นใดๆที่ต้องสงสัย
-
อนุญาตให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจออกคำสั่งตรวจค้นได้
โดยเจ้าหน้าที่มีอำนาจโดยเด็ดขาดสำหรับสั่งให้ รื้อ ถอน หรือทำลายซึ่งอาคาร สิ่งปลูกสร้าง หรือสิ่งกีดขวาง ตามความจำเป็นได้
-
อนุญาตให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจออกคำสั่งห้ามมิให้ผู้ใดออกไปนอกราช อาณาจักรได้
โดยเจ้าหน้าที่มีอำนาจโดยเด็ดขาดสำหรับสั่งให้ผู้ต้องส่งสัยห้ามเดินทางออกนอกประเทศได้
-
อนุญาตให้สามารถออกคำสั่งให้ใช้กำลังทหาร
เพื่อระงับเหตุการณ์ร้ายแรงหรือควบคุมสถานการณ์ให้เกิดความสงบโดยด่วนได้
นายกรัฐมนตรีย้ำ อย่างตื่นตระหนก
นายกขอให้ประชาชนอย่างตื่นตระหนก ให้ฟังข่าวสารจากรัฐบาลผ่านระบบโซเชียลมีเดีย ทวิตเตอร์ และศูนย์ปฏิบัติ “ศอฉ.โควิด” กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการต่างประเทศ ตลอดทั้งวัน และมีการแถลงสรุปในแต่ละวัน นอกากนี้จะมีการตั้งด่านตรวจ ปรับมาตรฐานให้เข้มข้นและอาจความจำเป็นต้องปิดล็อกพื้นที่ทั้งหมดในเร็วๆนี้หากเหตุการณ์ระบาดถึงขั้นเลวร้าย
ขอขอบคุณ https://www.moneyguru.co.th