คุณรู้หรือไม่ว่า .. ความเคร่งเครียด จะนำมาสู่การมีทัศนคติแง่ลบ กับงานที่คุณทำไม่ว่าคุณเจออุปสรรคเล็กหรือใหญ่ คุณก็จะมองว่ามันใหญ่โตเกินกว่าที่คุณจะรับมือได้ สุดท้ายคุณก็จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไปในที่สุด
จริง ๆ แล้วหากเรามองให้ดี ๆ จะพบว่า อะไรกันแน่ที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เราพบความล้มเหลว ตัวเราเอง หรือคนอื่น หรือสภาพแวดล้อมอื่น ในวันนี้อยากบอกท่านผู้อ่านทุกท่านว่า ไม่มีอะไรที่จะมาทำร้ายเราได้ นอกจากเราจะทำร้ายตัวเราเอง
ดังนั้น ก่อนที่เราจะแก้ปัญหาความเคร่งเครียดด้วยสาเหตุอื่นๆ เรามาปรับทัศนคติให้ดีขึ้นกันดีกว่านะคะ เรามาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
-
ไม่เป็นไร ผิดพลาดกันได้ ไม่ใช่เรื่องใหญ่
คุณทำงานผิดพลาดแล้วยังจะมานั่งโทษตัวเองให้เหนื่อยทำไม ให้กำลังใจตัวเองเพื่อทำงานชิ้นต่อไปดีกว่า ยิ่งมัวจมกับความผิดพลาดเดิม ๆ เราก็จะทำงานอื่นต่อไม่ได้ สู้เอาความผิดพลาดมาทำให้ถูกต้องในงานชิ้นใหม่ดีกว่า
สัจธรรมของชีวิต ที่ต้องจำไว้อย่างหนึ่งคือ ไม่มีใครจำเรื่องของคนอื่นนานหรอก ถึงใครจะว่าเรามากมายแค่ไหน แต่พอเดินพ้นหน้าเราไปเขาก็ต้องคิดเรื่องอื่นแทน แล้วเราจะมาลงโทษตัวเองอยู่ทำไม
-
งานไม่ได้หนักทุกวันสักหน่อย เดี๋ยวก็ได้พักแล้ว
เวลางานล้นมือเราอาจท้อ แต่ท้อไปงานก็ไม่เสร็จ ลุกมาทุ่มเททำให้เสร็จ ๆ ไปดีกว่า เหนื่อยแค่ไหนเดี๋ยวก็ได้พัก และสิ่งที่ต้องทำเมื่องานเยอะคือ จัดระเบียบเส้นตายของงานแต่ละชิ้น เจรจาต่อรองถ้าคิดว่าจะไม่เสร็จตรงเวลา แล้วค่อย ๆ ทำไปทีละงาน เดี๋ยวดีเอง
-
ถึงจะไม่เก่งงานนี้ แต่เราก็พยายามเต็มที่แล้ว
บ่อยครั้งที่เราได้รับมอบหมายงานที่ไม่ถนัด ก็คิดเสียว่าไม่เป็นไร ทำให้เต็มที่ แต่ก่อนทำก็บอกคนที่มอบหมายหน่อยว่าไม่ค่อยถนัดแต่จะทำเต็มที่ ผิดพลาดอะไรบอกได้ เขาจะได้ไม่คาดหวังมาก แต่ถ้าทำออกมาแล้วดีก็ถือเป็นกำไร
อย่าเสียใจที่ทำงานบางประเภทไม่เก่ง เพราะเราอาจจะเก่งในงานประเภทอื่นก็ได้ จำไว้ว่าปลาอาจจะว่ายน้ำเก่งกว่าลูกสุนัข แต่ปลาวิ่งไม่ได้เหมือนกัน ถ้าปลาตัวหนึ่งจะโดดขึ้นมาบนบกแล้วคืบคลานจนถลอกปอกเปิกก็คงไม่มีใครว่าอะไร เพราะมันเป็นปลาจริงไหม
-
ใครจะว่าอะไรก็ช่าง ถ้าเราไม่ได้เป็นอย่างนั้นก็พอแล้ว